Thursday, January 9, 2014


...ผู้จัดทำ...

นายจักรกฤษณ์  มณีภักดี เลขที่ 2
นายพงศักดิ์  สิมมา เลขที่ 8
นางสาวภัทราภร  สุขหนุน เลขที่ 28
นางสาวนิราชา  เหล่ามาลา เลขที่ 38
นางสาวนุชจรี  ลือทองจันทร์ เลขที่ 40
นางสาวปาริชาติ  เทศสาลี เลขที่ 41





7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ?


           เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (อังกฤษSeven Wonders of the World) คือ สิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่งใหญ่และโดดเด่น ทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน โดยมีการกล่าวถึงครั้งแรกในงานของเฮโรโดตุส (Herodotos หรือ Herodotus เมื่อราว 5 ศตวรรษก่อนคริสตกาล แต่หลังจากนั้นก็การอ้างถึงจากกวีชาวกรีก เช่น คัลลิมาฆุส แห่งคีเรนี, อันทิพาเตอร์ แห่งซีดอน และฟิโล แห่งไบเซนไทน์ เมื่อราวศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ หรือสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดของโลก ในบัญชีแรก เรียกกันว่า เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และหลังจากนั้น ยังมีบัญชีเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางและยุคปัจจุบัน โดยไม่ปรากฏผู้จัดทำรายการอย่างชัดเจน

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน

กลุ่มวิศวกรโยธาแห่งสหรัฐอเมริกาได้รวบรวมรายชื่อของเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ในโลกยุคปัจจุบันไว้ดังนี้
  1. อุโมงค์รถไฟใต้ทะเล ประเทศอังกฤษ-ฝรั่งเศส
  2. ซีเอ็น ทาวเวอร์ ประเทศแคนาดา
  3. เขื่อนอิไตปู ประเทศบราซิล-ปารากวัย
  4. ตึกเอ็มไพร์สเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา
  5. เดลต้า เวิร์ค ประเทศเนเธอร์แลนด์
  6. สะพานโกลเดนเกต ประเทศสหรัฐอเมริกา
  7. คลองปานามา ทวีปอเมริกาใต้




1. อุโมงค์รถไฟใต้ทะเล ประเทศอังกฤษ-ฝรั่งเศส

อุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ



อุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ (อังกฤษ: Channel Tunnel; ฝรั่งเศส: Le tunnel sous la Manche) เป็นอุโมงค์รถไฟใต้ทะเลที่สร้างเชื่อมระหว่างเมืองฟอล์คสโตน มณฑลเค้นท์ บริเตนใหญ่ กับตำบลคอแกลส์ เมืองกาเลส์ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส อุโมงค์แห่งนี้สร้างลอดใต้ช่องแคบอังกฤษบริเวณช่องแคบโดเวอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุด ที่มีความกว้าง 34 กิโลเมตร
อุโมงค์ช่องแคบอังกฤษมีความยาวทั้งสิ้น 50.5 กิโลเมตร มีส่วนที่อยู่ใต้ทะเลยาว 37.9 กิโลเมตร ส่วนที่อยู่ใต้น้ำต่ำที่สุดที่ 75 เมตรและลึกสุดที่ 230 เมตร
อุโมงค์ช่องแคบอังกฤษก่อสร้างและบริหารงานโดยบริษัท ยูโรทันเนล ซึ่งจัดการเดินรถไฟความเร็วสูงยูโรสตาร์ การก่อสร้างเริ่มต้นตั้งแต่ ค.ศ. 1988 เปิดใช้งานอุโมงค์เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 เปิดการเดินรถเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 การก่อสร้างใช้งบประมาณ 4,650 ล้านปอนด์ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 80% 
แนวคิดในการก่อสร้างอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ ได้รับการเสนอมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมีการเสนอโครงการต่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ในปี ค.ศ. 1856 ด้วยงบประมาณ 170 ล้านฟรังก์ (7 ล้านปอนด์)  และต่อวิลเลียม แกลดสตัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1865  แต่โครงการนี้ได้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากปัญหาด้านการเมือง ความมั่นคง และการป้องกันประเทศ
โครงการนี้ถูกนำมาพิจารณาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1955 โดยตัดปัญหาเรื่องการป้องกันประเทศออกไป เนื่องจากในขณะนั้นการรุกรานประเทศสามารถกระทำได้ด้วยการโจมตีทางอากาศ แต่โครงการก็ล่าช้าไปเนื่องจากปัญหาทางการเมืองในสหราชอาณาจักร จนกระทั่งปี ค.ศ. 1981 นางมาร์กาเรต แทตเชอร์ และนายฟรองซัวส์ มิตแตร์รองด์ ผู้นำของทั้งสองประเทศจึงได้บรรลุข้อตกลงในการก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้












2. ซีเอ็น ทาวเวอร์ ประเทศแคนาดา


หอคอยซีเอ็นทาวเวอร์



           สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกขณะนี้ คือ หอคอยซีเอ็นทาวเวอร์ ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา มีความสูง 1,821 ฟุต สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1975 รูปทรงสัณฐาน เหมือนเข็ม เย็บกระสอบเสียบแห้วตรงปลาย ตรงที่เหมือนแห้วนี้เป็นชั้นชมวิวชั้นล่าง มีภัตตาคาร ร้านอาหาร (อยู่คฃตรงความสูง 1,136 ฟุต) หากขึ้นไปถึงความสูง 1,465 ฟุต ตรงนี้จะมีอีก กระเปาะเล็กๆ เรียกว่า สกายพอด (Sky Pod) ตรงนี้ชมวิวได้ไกลโพ้นถึง 100 กิโลเมตร ในวันที่อากาศดีๆ สามารถมองเห็นน้ำตกไนแอการาได้ใกล้ๆ ส่วนลิฟต์ที่พาขึ้นไปชมนั้นวิ่ง ด้วยความเร็วจากพื้นถึงชั้นชมวิว(กรเปาะะเห้ว)แค่ 58 วินาทีเท่านั้น แต่จุดที่น่าเสียว คือตรงความสูงแค่ 1,122 ฟุต ตรงชั้นชั้นล่างของชั้นชมวิว (กรเปาะะเห้ว) ตรงนี้ทำพื้นเป็นกระจกใสหนาให้มองเห็นพื้นดินที่อยู่ไกลออกไป สามารถขึ้นไปยืน นั่ง เดินได้






3. เขื่อนอิไตปู

เขื่อนอิไตปู

เขื่อนอิไตปู (Itaipú) เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ซึ่งในอดีตจัดได้ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก     ก่อนที่เขื่อนสามหุบเขาของจีนจะแล้วเสร็จ เขื่อนอิไตปูสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1984 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1988 คำว่าอิไตปู แปลว่า"เสียงเพลงจากก้อนหิน"มาจากภาษากวารานิ (Guarani) ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม

เขื่อนอิไตปูกั้นแม่น้ำปารานาบริเวณเขตแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปารากวัย จึงทำให้เขื่อนนี้เป็นทั้งผนังกันน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองประเทศอีกด้วย เขื่อนอิไตปูเป็นเขื่อนคอนกรีตชนิดเขื่อนแบบกลวง มีขนาดความสูง 180 เมตร มีความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการสร้างกว่า 28 ล้านตัน ซึ่งสามารถสร้างสนามฟุตบอลได้ 210 สนาม และใช้เหล็กมากขนาดสร้างหอไอเฟลได้ 380 หอเลยทีเดียว เมื่อสร้างเสร็จด้านเหนือเขื่อนจึงเกิดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่กว่า 1,550 ตารางกิโลเมตร ระยะทางยาวลึกขึ้นไปทางเหนือเขื่อนอีกกว่า 160 กิโลเมตร มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 18 เครื่อง มีกำลังการผลิต 12,600 เมกะวัตต์ จึงสามารถจ่ายไฟให้กับประเทศปารากวัยได้ทั้งประเทศรวมทั้งเมืองใหญ่ของบราซิลทั้งกรุงเซาเปาโล และนครรีโอเดจาเนโร ได้อย่างสบาย แต่ภายหลังได้มีโครงการเพิ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็น 20 เครื่อง ภายในปี 2550 และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 14,000 เมกะวัตต์







4. ตึกเอ็มไพร์สเตต


ตึกเอ็มไพร์สเตท


เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1429 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี งบประมาณก่อสร้าง ประมาณ 5 ล้านปอนด์ ตึกเอ็มไพร์สเตทสร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 1,248 ฟุต รวม 102 ชั้น หน้าต่าง 6,500 บาน มีเนื้อที่ 2,158,000 ตารางฟุต มีลิฟต์ 63 แห่ง สามารถจุคนได้ 25,000-80,000 คน ส่วนสำคัญของ่ตึกเอ็มไพร์สเตทจากชั้นล่างถึงชั้นที่ 86 สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี น้ำหนัก 730 ตัน ชั้นบนสุดมีโคมไฟสูงขึ้นไปอีก 200 ฟุต ผู้ก่อสร้างรับประกันความถาวรทนทานของตึก 6,000 ปี ตึกเอ็มไพร์สเตท ใช้เป็นที่ทำการของบริษัทใหญ่ๆกว่า 600 บริษัท






5. เดลต้า เวิร์ค

เดลต้า เวิร์ค


เดลต้า เวิร์ค เป็นโครงการก่อสร้างชุดใหญ่ที่บริเวณปากแม่น้ำ Rhine-Scheldt ประเทศเนเธอร์แลนด์  เพื่อกั้นการท่วมของน้ำทะเล  โครงการประกอบไปด้วยการสร้างเขื่อน ประตูปิดเปิดน้ำ ที่กั้นเขื่อน  การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 1950 ถึงปี 1997 




6. สะพานโกลเดนเกต

สะพานโกลเดนเกต

สะพานโกลเดนเกต (อังกฤษ: Golden Gate Bridge) ทอดยาวข้ามอ่าวตอนเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกาสร้างในสมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ เมื่อปี ค.ศ. 1933 เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1937 ตอนกลางสะพานยาว 1,280 เมตร กว้าง 27 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 67 เมตร มีทางรถยนต์ 6 ทาง รถบรรทุก 3 ทาง รถไฟ 2 ทาง ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สะพานโกลเดนเกตกลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อสร้างเสร็จใหม่ๆ สะพานกลายเป็นสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาไปโดยปริยาย ปัจจุบันนี้เองผู้คนทั่วโลกเองก็ยังคงรู้จักสะพานโกลเดนเกตและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา และจากผลการสำรวจสถานที่ที่น่าประทับใจของสถาบันสถาปนิกอเมริกัน พบว่าอยู่ในอันดับที่ 5 ของสถานที่ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา




7. คลองปานามา

                                                                            คลองปานามา



       คลองปานามาเป็นคลองขุดตัดคอคอดระหว่างทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ในประเทศปานามาให้มีทางเดินเรือทางลัดจากมหาสมุทรอัตลันติค ไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิกได้สะดวกและรวดเร็ว ผู้เริ่มขุดคลองนี้คือ เฟอร์ดินัน เดอ ลสเซปส์ วิศกรผู้ขุดคลองสุเอซนั่นเองแต่เขาทำไปได้ไม่สำเร็จต้องล้มเลิกไป รัฐบาลอเมริกันจึงเข้าดำเนินการรับช่วงต่อและขุดสำเร็จเมื่อ พ.ศ. 2457 เป็นคลองยาว 50 3/4 ไมล์ มีส่วนกว้าง 300-400 ฟุต ลึก 35-40 ฟุต สิ้นเงินค่าสร้าง 700,000,000 ปอนด์ ช่วยย่นระยะทางในการต้องอ้อมแหลมสุดของอเมริกาถึง 6,700 ไมล์ แต่ที่แปลกไปกว่าคลองสุเอซก็คือ คลองนี้ขุดขึ้นไปบนที่สูง ผ่านทะเลสาบหลายแห่ง จึงต้องทำประตูระบายน้ำไว้เป็นตอน ๆ เพื่อยกระดับเรือให้สูงขึ้นจนเสมอระดับน้ำในทะเลสาบ แล้วไปลงทางอีกด้านหนึ่ง ด้วยการลดระดับน้ำให้ต่ำลงไปจนเทียบเท่ากับระดับน้ำทะเล จัดเป็นคลองเดินเรือนานาชนิดที่สำคัญมากคลองหนึ่ง